รายงานโดย สิรสิทธิ์ ตติยภัณฑรักษ์ [#RETAILman | #RETAILmanX]

งานชั้นนำด้านพลังงานระดับภูมิภาคอาเซียน “Enlit Asia 2025” เปิดงานอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ (9 กันยายน 2568) ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไบเทคบุรี กรุงเทพฯ (BITEC BURI) ย่านบางนา โดยรวบรวมผู้นำอุตสาหกรรม, ผู้กำหนดนโยบาย, และนักนวัตกรรม มาร่วมกำหนดทิศทางอนาคตพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 กันยายน 2568 นี้ ภายในงานได้นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมส่งเสริมการสนทนาเชิงลึกตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าพลังงาน ตั้งแต่การผลิตจนถึงการมีส่วนร่วมของผู้ใช้พลังงาน

สำหรับพิธีเปิดงานได้รับเกียรติจาก ดร. วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมกล่าวเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการขับเคลื่อนอนาคตพลังงานอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนว่า “ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานที่ยั่งยืนและมีความมั่นคงในอาเซียน โดยคณะกรรมาธิการการพลังงานได้ชี้ให้เห็นความก้าวหน้าของประเทศไทยในการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ พร้อมตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานในอาเซียนถึงความก้าวหน้าของประเทศไทยด้านการบูรณาการพลังงานแสงอาทิตย์และลม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการสร้างมาตรฐานภูมิภาคด้านการขยายตัวของพลังงานหมุนเวียน”

บรรยากาศวันแรกของการเปิดงานเริ่มต้นด้วยการเสวนาที่เจาะลึกในเส้นทางหลายมิติของอาเซียนสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) โดยการเสวนานี้เป็นส่วนหนึ่งของวาระการประชุมสุดยอดอันมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงทางพลังงานกับเป้าหมายสุทธิศูนย์ (Net Zero) ผ่านกลยุทธ์ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ทางด้านพลังงานหมุนเวียน, ดิจิทัลไลเซชัน, และการเชื่อมต่อระดับภูมิภาค ซึ่งเนื้อหาสำคัญของการเสวนานี้มุ่งเน้นถึงโครงการส่งไฟฟ้าข้ามพรมแดน, กรอบกฎหมายและข้อกำกับดูแล, ไปจนถึงบทบาทสำคัญของหน่วยงานสาธารณูปโภค, ผู้พัฒนาเอกชน, และผู้ใช้พลังงานรายใหญ่จำเป็นร่วมกันเสริมสร้างความมั่นคงของโครงข่าย และขับเคลื่อนความยั่งยืนของระบบพลังงาน

ดร. บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เน้นย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางของระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานระดับภูมิภาคว่า “ตำแหน่งยุทธศาสตร์ของประเทศไทยใน EEC จะช่วยให้ประเทศสามารถนำการเปลี่ยนผ่านพลังงานในภูมิภาคได้ผ่านนวัตกรรมและความร่วมมือ”

ทำนองเดียวกันกับคุณพงศกร ยุทธโกวิท รองผู้ว่าการ (แผนงานและวิศวกรรม) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้มุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานและกลยุทธ์การลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิว่า “การสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงทางพลังงานกับเป้าหมายสุทธิศูนย์จำเป็นต้องบูรณาการพลังงานหมุนเวียนพร้อมกับการรับประกันความเสถียรของโครงข่าย”

ทางด้านคุณธวัชชัย สำราญวานิช รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวเสริมว่า “ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงนวัตกรรมด้านการเงินนั้นมีความสำคัญต่อการเอาชนะความท้าทายด้านการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการพลังงานอย่างยั่งยืน”

คุณดิเรก บุญปิยทัศน์ รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง (MEA) กล่าวเพิ่มเติมว่า “การวางแผนโครงข่ายอย่างสร้างสรรค์และการใช้โซลูชันดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญในการบูรณาการทางด้านพลังงานหมุนเวียนและการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าและความมั่นคงของพลังงานในประเทศ”

ทั้งนี้ การเสวนานี้ได้เน้นย้ำบทบาทสำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาคผ่านระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC)

นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายเชิงอภิปรายพิเศษเพิ่มเติมในการสำรวจโอกาสให้กับภูมิภาคทางด้านพลังงานหมุนเวียน, พลังงานไฮโดรเจน, และพลังงานนิวเคลียร์ พร้อมกับการใช้ประโยชน์จาก AI, เทคโนโลยีดิจิทัล, และการจัดเก็บพลังงานในการเพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บและลดการรั่วไหลลง โดยการอภิปรายยังได้เน้นไปที่การปรับปรุงโรงงานเดิม, การใช้เชื้อเพลิงร่วม, และเชื้อเพลิงเปลี่ยนผ่านเป็นมาตรการชั่วคราว เพื่อสนับสนุนการผสมผสานพลังงานที่หลากหลายของอาเซียน

งาน “Enlit Asia 2025” ในครั้งนี้เป็นเวทีสำหรับการนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดทางด้านพลังงาน อาทิ; Trilliant Networks, Mitsubishi Power, GE Vernova, Kraken, Shanghai Electric, Comcore เป็นต้น ซึ่งงานนี้ได้สร้างเวทีให้กับอนาคตทางด้านพลังงานร่วมกันให้กับภูมิภาคอาเซียน

ภายในงานยังมีแพลตฟอร์ม Business Matching ที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปพลิเคชันเครือข่าย โดยเปิดตัวไปในเดือนสิงหาคม 2568 ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างความร่วมมือในเชิงกลยุทธ์ให้ผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้สามารถนัดประชุมแบบตัวต่อตัวกับผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมพลังงาน พร้อมเครื่องมือที่ใช้งานง่ายที่จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และเร่งการเติบโตขององค์กร ผ่านการเสริมบทบาทของงาน “Enlit Asia” นี้ในฐานะตัวเร่งความร่วมมือให้เกิดเป็นรูปธรรมได้เร็วยิ่งขึ้น

สำหรับงานประชุมเชิงเทคนิค (Technical Conference) ที่ภายในงานมี Knowledge Hubs เป็นส่วนประกอบนั้น เริ่มต้นด้วยเซสชันที่เข้าร่วมได้ฟรีในสามห้องประชุมครอบคลุมหัวข้อ ทั้งพลังงานใหม่ (New Energy), ปัญญาประดิษฐ์และดิจิทัล (AI & Digitalisation), และโครงข่ายไฟฟ้าที่ยืดหยุ่น-ทนทาน-เชื่อมต่อกัน (Flexible, Resilient & Connected Grid) โดยเซสชันเหล่านี้ได้มอบความรู้เชิงปฏิบัติและกรณีศึกษาต่างๆ รวมทั้งยังได้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมพลังงาน

ทั้งนี้ งาน “Enlit Asia 2025” ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 กันยายน 2568 นี้ มีผู้จัดแสดงมากกว่า 350 ราย โดยแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงจากผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งกิจกรรมเด่นของงานนี้ คือ Nuclear Forum และ Multi-stream Summit ที่จะเปิดพื้นที่ให้ผู้นำด้านพลังงานได้พูดคุยเกี่ยวกับประสิทธิภาพพลังงาน, การผลิตไฟฟ้าอย่างยั่งยืน, การพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ, และนวัตกรรมพลังงานหมุนเวียน ผู้เข้าร่วมสามารถสำรวจโซลูชันที่ปรับแต่งเฉพาะ เพื่อตอบสนองความต้องการระบบไฟฟ้าของอาเซียนในปัจจุบันและอนาคต พร้อมของแจกและโปรโมชั่นจากพันธมิตรที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเข้าร่วมงานแบบตัวต่อตัว

ทางผู้จัดงานคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากกว่า 12,000 คน โดยเพิ่มขึ้นจากจำนวน 11,000 คนในปี 2024 และมีบูธผู้จัดแสดงกว่า 350 บูธ ซึ่งครอบคลุมทั้งผู้ให้บริการสาธารณูปโภคในภูมิภาค, ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ, ผู้พัฒนาโครงการ, ที่ปรึกษา, วิศวกร, และผู้ใช้พลังงานรายใหญ่ที่จะทำให้งานนี้ยังตอกย้ำตำแหน่งผู้นำแพลตฟอร์มพลังงานชั้นนำของอาเซียน

คุณไซมอน ฮอร์ ผู้อำนวยการด้านการบริหารแบรนด์ Portfolio งาน Enlit Asia กล่าวปิดท้ายว่า “งาน Enlit Asia คือจุดเชื่อมต่อของภาคพลังงานในภูมิภาคอาเซียนที่รวมผู้ตัดสินใจและนักนวัตกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมมือและเร่งความก้าวหน้าไปสู่อนาคตพลังงานที่ยั่งยืน”

  #TheDailyBangkok  #ข่าวสังคมบันเทิงธุรกิจไลฟ์สไตล์  #รัฐวัชร์จัดให้