• เชย์นิส ปาลาซิโอส (Sheynnis Palacios) คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2023 (Miss Universe 2023) ไปครองได้สำเร็จ โดยถือเป็น “มงแรก” ของสาธารณรัฐนิการากัว
• แอนโทเนีย โพซิ้ว มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ทำได้ดีที่สุดด้วยการคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 โดยถือเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปีที่สาวงามชาวไทยหลุดเข้าไปในรอบ 3 คนสุดท้าย
• โมรายา วิลสัน มิสออสเตรเลีย คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2

การตัดสินการประกวด “มิสยูนิเวิร์ส 2023” ครั้งที่ 72 จัดขึ้นวันนี้ (ตรงกับเวลา 08.00 น. ตามเวลาไทย) ณ The Adolifo Pineda Gymnasium ประเทศเอลซัลวาดอร์ ได้ปิดฉากลงแล้วมีสาวงามจาก 84 ประเทศร่วมเวทีประชันโฉมในรอบตัดสิน ท่ามกลางการรอลุ้นรอเชียร์จากบรรดาแฟนนางงามจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งการจัดประกวดครั้งนี้อยู่ภายใต้เจ้าของเวทีคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ “แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” แห่งอาณาจักร JKN โกลบอล กรุ๊ป

เชย์นิส นางงามจักรวาลคนล่าสุด เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2000 (ปัจจุบันอายุ 23 ปี) ในกรุงมานากัว เมืองหลวงของสาธารณรัฐนิการากัว สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยอเมริกากลาง (Universidad Centroamericana) ในสาขาสื่อสารมวลชน นับเป็นครั้งแรกที่สาวงามจากประเทศอเมริกากลางสามารถคว้ามงกุฎนางงามตักรวาลไปครองได้สำเร็จ ซึ่งการที่เธอชนะใจกรรมการและคนทั่วโลกได้นั้น เพราะเธอสามารถแสดงปฏิภาณไหวพริบและคุณค่าของความเป็นผู้หญิงยุคใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม

แอนโทเนีย โพซิ้ว สาวลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก วัย 27 ปี ถูกระบุว่าเป็นตัวเต็งตามโพลนางงามของหลายสำนัก และเป็นตัวแทนความหวังในการ “คว้ามง” ที่ 3 ซึ่งชาวไทยต่างรอคอยนานถึง 35 ปี นับจาก อาภัสรา หงสกุล คว้ามงกุฏนางงามจักรวาลมาครอบครองได้สำเร็จเป็นคนแรกในปี 1965 และ ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก หรือ “ปุ๋ย” เป็นคนที่ 2 เมื่อปี 1988

โดยคำถามในรอบชิงชนะเลิศ ที่สาวงามทุกคนต้องตอบเหมือนกัน คือ หากคุณสามารถเป็นผู้หญิงคนอื่นได้ 1 คนในระยะเวลา 1 ปี คุณจะเลือกเป็นใคร เพราะอะไร ทั้งนี้ตัวแทนสาวงามคนแรกที่ตอบคำถามคือ ไทย ออสเตรเลีย และนิการากัว ตามลำดับ

• แอนโทเนีย ตอบว่า มาลาลา ยูซาฟไซ ที่ต่อสู้เพื่อการศึกษาให้กับผู้หญิง และเป็นปากเสียงที่สำคัญที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในโลกใบนี้ ทั้งนี้ มาลาลา ยูซาฟไซ เป็นนักเคลื่อนไหวรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวปากีสถาน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2014 ซึ่งขณะได้รางวัล เธอมีอายุเพียง 17 ปี

• เชย์นิส ตอบว่า ฉันจะเลือก แมรี วอลล์สโตนคราฟต์ (Mary Wollstonecraft) เพราะเธอช่วยลดช่องว่างทางสังคมและให้โอกาสผู้หญิงหลายคน และสิ่งที่ฉันจะทำ ฉันอยากลดช่องว่างด้านรายได้ (ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง) เพื่อให้ผู้หญิงสามารถทำงานได้ในสถานที่ใดก็ได้ที่พวกเขาเลือก เพราะไม่มีข้อจำกัดสำหรับผู้หญิง นั่นคือเมื่อปี 1750 ตอนนี้ปี 2023 แล้ว เรากำลังสร้างประวัติศาสตร์

สำหรับ แมรี วอลล์สโตนคราฟต์ นั้น เป็นนักเขียนและนักสิทธิสตรีชาวอังกฤษที่มีชีวิตอยู่ช่วงปี 1759-1797 หรือกว่า 200 ปีมาแล้ว วอลล์สโตนคราฟต์เป็นที่รู้จักจากการเขียนหนังสือชื่อ A Vindication of the Rights of Woman (1792) ซึ่งมีเนื้อหาว่า โดยธรรมชาติ ผู้หญิงไม่ได้ด้อยกว่าผู้ชาย แต่ดูเหมือนจะเป็นเพียงเพราะพวกเธอขาดการศึกษาเท่านั้น ดังนั้น ทั้งชายและหญิงควรได้รับการปฏิบัติเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเหตุผลเหมือน ๆ กัน วอลล์สโตนคราฟต์ได้ชื่อว่าเป็น หนึ่งในผู้ก่อตั้งปรัชญาสตรีนิยม และนักสตรีนิยมมักกล่าวถึงชีวิตและผลงานของเธอว่าเป็นอิทธิพลสำคัญ

  #TheDailyBangkok  #ข่าวสังคมบันเทิงธุรกิจไลฟ์สไตล์  #รัฐวัชร์จัดให้